ฟังเสียง และกดติดตามได้ที่ Castbox Podcast


หลายคนคงรู้จักคีโตอยู่แล้ว แต่นุชเชื่อว่าก็ยังมีคนอีกมากที่ยังงงๆ กับคีโต ว่ามันคืออะไร ก่อนจะพูดถึงน้ำสลัดคีโต เรามาทำความรู้จักกับคีโตกันก่อน เอาง่ายๆ นะคะ

  • คีโตเจนิกไดเอทคือ วิธีทานอาหารโดยทำให้ร่างกายรู้สึกว่า ไม่ได้ทานอาหารเข้าไป หรือคิดว่า กำลังอดอาหารอยู่ ด้วยการงดทานแป้ง และน้ำตาล
  • คีโตเจนิกไดเอทสามารถลดน้ำหนักได้จริงโดยเฉพาะในช่วงแรก เนื่องจากระหว่างที่ร่างกายเผาผลาญไขมันไปใช้เป็นพลังงาน ร่างกายจะเสียน้ำตามไปด้วยจึงสามารถลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว
  • ระหว่างกระบวนการเผาผลาญไขมันไปเป็นพลังงาน จะเกิดกรดคีโตนสะสมในกระแสเลือด เพื่อใช้เป็นพลังงานแทนกลูโคส กรดคีโตนส่งผลให้รู้สึกเบื่ออาหาร ทำให้ทานได้น้อยลงตามไปด้วย
  • แต่ไม่ควรทานอาหารรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง นานเกินไปเพราะอาจทำให้ขาดสารอาหารบางชนิดได้ในระยะยาว ซึ่งจะเป็นอันตรายได้
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวาน โรคตับ โรคไต ผู้มีปัญหาเรื่องการเผาผลาญไขมัน และผู้มีปัญหาเกี่ยวกับการบีบตัวของลำไส้ ไม่ควรทำคีโตเจนิกไดเอท

คีโตเจนิกไดเอท ใช้ทางการแพทย์ในการควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน และผู้ป่วยชักที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาโดยใช้ยา

การทำคีโตเจนิกไดเอท คือ “การกินไขมัน เพื่อลดไขมัน”

ลดน้ำหนักได้จริงไหม

คีโตสามารถลดน้ำหนักได้จริง โดยเฉพาะในช่วงแรกของการทานอาหาร เนื่องจากในระหว่างที่ร่างกายเผาผลาญไขมันไปใช้เป็นพลังงานแทนน้ำตาลกลูโคส ร่างกายจะเสียน้ำตามไปด้วย เพราะ “น้ำ” เป็นส่วนประกอบหลักของร่างกาย คิดเป็น 60% จากองค์ประกอบทั้งหมด การทำคีโตในช่วงแรก สามารถลดน้ำหนักลงได้อย่างรวดเร็ว

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการทำคีโต

  • การทำคีโตจะให้ผลลัพธ์ในแง่การลดน้ำหนักดีกว่าการทานอาหารรูปแบบอื่นๆ ในช่วง 6 เดือนแรก เนื่องจากร่างกายสูญเสียน้ำจากกระบวนการเผาผลาญไขมันเป็นพลังงาน แต่ในระยะยาวให้ผลลัพธ์ไม่ต่างกัน
  • การทำคีโต คือ การงดทานแป้งและน้ำตาล ทำให้ไม่สามารถทานแหล่งอาหารที่เป็นคาร์โบไฮเดรต ผักมีหัว และผลไม้ จึงทำให้ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรต วิตามิน และเกลือแร่ ผู้ที่ทำคีโตต้องทานอาหารเสริมเพิ่มเติมเข้าไป
  • หลังจากที่เลิกทำคีโตแล้ว ควรค่อยๆ เพิ่มปริมาณคาร์โบไฮเดรตเพราะหากไม่สามารถควบคุมอาหารได้ ก็อาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือที่เรียกว่า “โยโย่เอฟเฟค (Yoyo effect)”

ผู้ที่ไม่ควรทำคีโต

  • ผู้ป่วยโรคเบาหวาน อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงของโรคเบาหวานซึ่งจำเป็นต้องรักษาอย่างเร่งด่วน เพราะอาจทำให้หมดสติ หรือเสียชีวิตได้
  • ผู้ป่วยโรคตับ ตับเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่เปลี่ยนไขมันให้เป็นพลังงาน ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับตับจึงไม่ควรทำคีโต
  • ผู้ป่วยโรคไต ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับไต เช่น ไตวาย ไตเสื่อม ไม่ควรทำคีโต เพราะการทำคีโตต้องทานโปรตีนในปริมาณที่ค่อนข้างมาก อาจเกิดปัญหากับไตได้
  • ผู้มีปัญหาเรื่องการเผาผลาญไขมัน มีคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง
  • ผู้มีปัญหาเกี่ยวกับการบีบตัวของลำไส้ ท้องอืดง่าย หรือเป็นกรดไหลย้อน การเน้นทานไขมันอาจทำให้อาการเหล่านี้กำเริบขึ้นได้

ตัวอย่างอาหารที่คีโตสามารถทานได้

  • อาหารที่อุดมไปด้วยไขมันดี เช่น ปลาแซลม่อน ปลาทูน่า ไข่ไก่ น้ำมันมะกอก น้ำมันรำข้าว เนย ชีส อะโวคาโด อัลมอนด์ วอลนัท เมล็ดฟักทอง เมล็ดเจีย
  • ผักที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตน้อย เช่น ผักใบเขียว มะเขือเทศ หอมหัวใหญ่
  • เครื่องปรุงรสที่ไม่มีน้ำตาล เช่น เกลือ พริกไทย เครื่องเทศต่างๆ

ตัวอย่างอาหารที่คีโตไม่สามารถทานได้

  • อาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำตาล เช่น น้ำผลไม้ ไอศกรีม ลูกอม ซอสปรุงรส
  • ธัญพืช หรือแป้ง ประเภท ข้าว พาสต้า ซีเรียล ผลิตภัณฑ์จากข้าวสาลี
  • ผลไม้ เช่น ผลไม้เกือบทุกชนิด ยกเว้นผลไม้ตระกูลเบอร์รี เลมอน อะโวคาโด เนื้อมะพร้าว
  • ผักที่มีหัว เช่น มันฝรั่ง มันหวาน เผือก แครอท ฟักทอง
  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะ ปริมาณคาร์โบไฮเดรตในแอลกอฮอล์จะทำให้หลุดจากภาวะคีโตซิสได้
  • ผงชูรส เพราะ ผงชูรสจะกระตุ้นการหลั่งอินซูลินได้

การทำคีโตหากทำอย่างถูกวิธี เช่น ไม่ทานไขมันเลวมากเกินไป เน้นไขมันดี และเสริมสารอาหารจำพวกวิตามินและเกลือแร่อย่างครบถ้วนก็ไม่เป็นอันตราย อีกทั้งยังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ไม่ควรทานอาหารในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งนานเกินไปนัก การทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังอย่างสม่ำเสมอถึงจะเป็นวิธีดูแลสุขภาพที่ดีที่สุด

น้ำสลัดคีโต ต่างจากน้ำสลัดทั่วไปยังไง

  • น้ำสลัดคีโตไม่ใส่น้ำตาล แต่ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลเช่น หญ้าหวาน อิริทริทอล หล่อฮั่งก้วย อินูลิน เพราะสารทดแทนเหล่านี้ไม่กระตุ้นการหลั่งอินซูลิน
  • น้ำสลัดคีโตใช้น้ำมันจากไขมันดี เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว น้ำมันอาโวคาโด น้ำมันปลา น้ำมันจากถั่ว(แมคาเดเมีย อัลมอนด์ พิสตาชิโอ มะม่วงหิมพานต์) เป็นต้น

สรุปแล้ว น้ำสลัดคีโตคือน้ำสลัดที่ดีต่อสุขภาพ คนเป็นโรคเบาหวานทานได้ คนรักสุขภาพทานได้ ต่างจากน้ำสลัดทั่วไปหลายยี่ห้อที่หวานจัดมาก ยิ่งกินยิ่งทำลายสุขภาพ นุชขอแนะนำว่าควรเลือกน้ำสลัดหวานน้อย หรือน้ำสลัดคีโต คือทางเลือกสุขภาพที่ดีที่สุด


ช่องทางติดต่อ สลัดครีเอเตอร์
โทร: 086 672 0607
Line id: @saladcreator หรือคลิก

เพิ่มเพื่อน