ถั่วดำ
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าถั่วดำมีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศอินเดีย หรือในพม่า เนื่องจากมีหลักฐานที่ระบุว่ามีศูนย์กลางแหล่งกำเนิดอยู่ในประเทศอินเดียและเอเชียกลาง และภายหลังได้แพร่กระจายไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ประเทศไทย พม่า มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ตลอดจนถึงทวีปอเมริกา แอฟริกา และออสเตรเลีย
ประโยชน์ของถั่วดำ
- ถั่วดำอุดมไปด้วยแคลเซียมซึ่งช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง
- นอกจากถั่วดำจะให้โปรตีนแล้ว ยังอุดมไปด้วยไฟเบอร์หรือเส้นใยซึ่งช่วยในการขับถ่ายและป้องกันอาการท้องผูก
- ถั่วดำมีคุณสมบัติในการช่วยลดความอ้วนได้ เนื่องจากในถั่วดำมีสัดส่วนของโปรตีนถึง 40% และมีกรดไขมันไม่อิ่มตัว 20% โดยอุดมไปด้วยสารลดความอ้วนและสารที่ช่วยกำจัดสารพิษ
- ในถั่วดำมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่สามารถช่วยป้องกันโรคมะเร็ง รวมไปถึงโรคต่าง ๆ ในผู้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือบทบาทในการช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ถึงร้อยละ 40 และมะเร็งลำไส้ตรงได้ถึงร้อยละ 80 นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันมะเร็งในกระเพาะอาหารได้ด้วย ซึ่งจากงานวิจัยระบุว่าผู้ที่รับประทานบ่อย ๆ จะมีความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้รับประทานถึงร้อยละ 30 รวมไปถึงฤทธิ์ในการป้องกันมะเร็งปอดได้ถึงร้อยละ 50
- ถั่วดำมีสารไอโซฟลาโวนส์ซึ่งเป็นสารที่ช่วยป้องกันเซลล์เจริญเติบโตผิดปกติ จากปัญหาการหลั่งฮอร์โมนผิดปกติจนกลายเป็นโรคอ้วน และยังช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก อันมีสาเหตุมาจากการหลั่งฮอร์โมนแอนโดรเจนหรือฮอร์โมนเพศชาย มากเกินไปได้
- ถั่วดำมีสารที่ออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์โปรติเอส ซึ่งช่วยป้องกันและลดการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็งได้ ช่วยป้องกันมะเร็งเต้านม และยังส่งผลดีต่อฮอร์โมนเพศหญิงอีกด้วย
- ช่วยยับยั้งโรคเบาหวาน เนื่องจากเส้นใยในถั่วดำเป็นเส้นใยชนิดละลายน้ำ จึงช่วยลดความเร็วของการดูดซึมกลูโคสให้ดูดซึมในร่างกายช้าลง จึงสามารถยับยั้งโรคเบาหวานได้
- ช่วยป้องกันและรักษาโรคโลหิตจาง เนื่องจากถั่วดำอุดมไปด้วยวิตามินบี 12 วิตามินบี 9 หรือกรดโฟลิก และเบตาแคโรทีน แถมยังมีธาตุเหล็กที่สูงกว่าเนื้อสัตว์ถึง 4 เท่า มันจึงมีประโยชน์โดยตรงต่อผู้เป็นโรคโลหิตจางอย่างมาก
- ช่วยป้องกันโรคความดันโลหิตสูงและช่วยลดคอเลสเตอรอล เนื่องจากถั่วดำอุดมไปด้วยวิตามินอีและโพแทสเซียมที่ช่วยลดความดันโลหิต ด้วยการขยายเส้นโลหิตให้กว้างมากขึ้น ทั้งยังมีแคลเซียมที่ช่วยทำให้กล้ามเนื้อของเส้นเลือดเกิดความยืดหยุ่นมากขึ้นอีกด้วย
- ล้างพิษด้วยถั่วดำ ถั่วดําช่วยล้างพิษในร่างกาย เนื่องจากถั่วดำมีสารฟลาโวนอยด์ ซึ่งเป็นถั่วที่มีสารล้างพิษที่มีปริมาณสูงสุด และยังมีสารสำคัญอย่างแอนโทไซยานินที่เป็นสารล้างพิษที่ดี โดยเมื่อเทียบกับผลไม้อย่างส้มแล้ว พบว่าถั่วดำจะมีปริมาณของสารล้างพิษมากกว่าส้มถึง 10 เท่า ! แต่การทำให้ถั่วดำสุกจะสูญเสียสารล้างพิษไปบ้าง แต่ก็ยังสามารถช่วยล้างพิษในร่างกายได้อย่างประสิทธิภาพ
ด้านมืดของถั่วดำ
ถั่วดำมีสารพิวรีน (Purine) ระดับปานกลาง ผู้ป่วยโรคเกาต์ควรรับประทานในปริมาณที่จำกัด เนื่องจากสารดังกล่าวอาจเป็นตัวกระตุ้นทำให้อาการข้ออักเสบกำเริบขึ้นได้ และการรับประทานถั่วที่ดี ควรรับประทานสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง
ความคิดเห็นของนุช
เวลาจะทานอะไรก็ต้องทานแต่พอดี ศึกษาประโยชน์และโทษของอาหารตัวนั้นก่อน ถึงแม้จะมีประโยชน์แต่กินมากไปไม่ได้ ต้องกินให้หลากหลายค่ะ ส่วนตัวนุชไม่ค่อยได้ซื้อถั่วดำมากิน อาจเป็นเพราะไม่ค่อยคุ้นเคย แต่ตอนนี้ลองซื้อมาต้มกินกับสลัดบ้าง ใส่ในเมนูอื่นบ้างนิดๆ หน่อยๆ ช่วงทดลองค่ะ รสชาติถั่วดำก็เหมือนทั่วไป ต้มแบบไม่ใส่เกลือก็จะจืดๆหน่อย ถ้าอยากกินให้อร่อยก็ต้องเอาไปใส่กับวัตถุดิบอื่น ปรุงให้มีรสชาติแต่อย่าจัดจ้านเกินไป เท่านี้ก็ได้รับประโยชน์จากถั่วดำแล้วค่ะ ลองศึกษาแล้วทำดูนะคะ ใครทำแล้วส่งมาอวดนุชได้ค่ะ พูดคุยกันได้ทุกช่องทางนะคะ
ตารางโภชนาการ ต่อถั่วดำต้มสุก 100 กรัม
Beans, black, mature seeds, cooked, boiled, without salt
Water 65.7 g
Energy 132 kcal
Protein 8.86 g
Total lipid (fat) 0.54 g
Ash 1.15 g
Carbohydrate, by difference 23.7 g
Fiber, total dietary 8.7 g
Sugars, total including NLEA 0.32 g
Calcium, Ca 27 mg
Iron, Fe 2.1 mg
Magnesium, Mg 70 mg
Phosphorus, P 140 mg
Potassium, K 355 mg
ขอบคุณข้อมูลจาก: medthai, usda, freepik
ช่องทางติดต่อ สลัดครีเอเตอร์
โทร: 086 672 0607
Line id: @saladcreator หรือคลิก